ปูนซีเมนต์ที่ผลิตในประเทศไทย ส่วนใหญ่จะผลิตตามมาตรฐานของ อเมริกา(ASTM C. 150)
และของอังกฤษ(British Standard ; B.S.) ซึ่งตามมาตรฐาน มอก. 15 ของไทย
ได้แบ่งปูนซีเมนต์ออกเป็น 5 ประเภท คือ
1. ประเภท 1 (Normal Portland Cement) เป็นปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ธรรมดา
เหมาะกับงานก่อสร้างคอนกรีตทั่วๆไป ที่ไม่ต้องการคุณสมบัติพิเศษเพิ่มเติม
เช่น คาน เสา พื้น ถนน ค.ส.ล. เป็นต้น แต่ไม่เหมาะกับงานที่ต้องสัมผัสกับเกลือซัลเฟต
ผลิตภัณฑ์ปูนซีเมนต์ประเภทนี้ที่มีจำหน่ายได้แก่ ตราช้าง เพชร(เม็ดเดียว)
พญานาคเขียว TPI(แดง) ภูเขา และดาวเทียม
2. ประเภท 2 (Modified Portland Cement) เป็นปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์
ดัดแปลงเพื่อให้สามารถต้านทานเกลือซัลเฟตได้ปานกลาง
และจะเกิดความร้อนปานกลางในช่วงหล่อ เหมาะกับงานโครงสร้างขนาดใหญ่
เช่น ตอม่อ สะพาน ท่าเทียบเรือ เขื่อน เป็นต้น
ผลิตภัณฑ์ปูนซีเมนต์ประเภทนี้ที่เคยมีจำหน่าย
ได้แก่ ตราพญานาคเจ็ดเศียร (ปัจจุบันเลิกผลิตแล้ว)
3. ประเภท 3 (High-early Strength Portland Cement)
เป็นปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ที่สามารถให้กำลังได้รวดเร็วในเวลาอันสั้น
หลังจากเทแล้วสามารถใช้งานได้ภายใน 3-7 วัน เหมาะกับงานที่เร่งด่วน
เช่น คอนกรีตอัดแรง เสาเข็ม พื้นถนนที่จราจรคับคั่ง เป็นต้น
ผลิตภัณฑ์ปูนซีเมนต์ประเภทนี้ที่มีจำหน่าย
ได้แก่ ตราเอราวัณ สามเพชร TPI(ดำ) และพญานาคแดง
4. ประเภท 4 (Low-heat Portland Cement) เป็นปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์
ชนิดพิเศษที่มีอัตราความร้อนต่ำกำลังของคอนกรีตจะเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ
ซึ่งส่งผลดีทำให้การขยายตัวน้อยช่วยลดการแตกร้าว
เหมาะกับงานสร้างเขื่อนขนาดใหญ่
ปูนซีเมนต์ประเภทนี้ในประเทศไทยยังไม่มีการผลิตจำหน่าย
5. ประเภท 5 (Sulfate-resistant Portland Cement)
เป็นปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ที่ทนต่อเกลือซัลเฟตได้สูงเหมาะกับงานก่อสร้างบริเวณดินเค็ม
หรือใกล้กับทะเล ผลิตภัณฑ์ปูนซีเมนต์ประเภทนี้ที่มีจำหน่าย
ได้แก่ ตราปลาฉลาม TPI(ฟ้า) และตราช้างฟ้า(ปัจจุบันเลิกผลิตแล้ว)
นอกจากปูนซีเมนต์ทั้ง 5 ประเภทแล้ว ยังมีปูนซีเมนต์ที่ผลิตขึ้นมา
โดยดัดแปลงเพื่อให้เหมาะกับงาน และราคาถูกลง
ที่มีจำหน่ายในท้องตลาดทั่วไปได้แก่
- ปูนซีเมนต์ผสม(Mixed Cement)
เป็นการนำปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ประเภท 1
ผสมกับทรายหรือหินบดละเอียด ประมาณ 25-30% ซึ่งทำให้ง่ายต่อการใช้งาน
ลดการแตกร้าว เหมาะกับงานก่ออิฐ ฉาบปูน
ผลิตภัณฑ์ปูนซีเมนต์ประเภทนี้ที่มีจำหน่ายได้แก่
ตราเสือ งูเห่า นกอินทรีย์ TPI(เขียว)
- ปูนซีเมนต์ขาว(White Portland Cement)
เป็นปูนซีเมนต์ที่มีส่วนผสมหลัก
คือ หินปูนและวัตถุดิบอื่นๆที่มีปริมาณของแร่เหล็กน้อยกว่า 1%
ลักษณะของผงสีปูนที่ได้จะเป็นสีขาว
สามารถผสมกับสีฝุ่นเพื่อทำให้เป็นปูนซีเมนต์สีต่างๆ ตามต้องการ
จึงนิยมใช้ในงานตกแต่งต่าง ๆ เพื่อความสวยงาม
ปูนซีเมนต์ประเภทนี้ที่ผลิตในประเทศไทย
ได้แก่ ตราช้างเผือก ตราเสือเผือกและ ตรามังกร
จากการทดสอบเปรียบเทียบหากำลังอัดของปูนซีเมนต์ ทั้ง 5 ประเภท
ในสภาพปัจจัยเดียวกัน ที่อายุคอนกรีต 1 , 7 , 28 และ90 วัน
ตามลำดับโดยกำหนดให้ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ประเภท 1 เป็นตัวเปรียบเทียบที่ 100 %
ผลที่ได้ดังตาราง
เปรียบเทียบกำลังอัดของปูนซีเมนต์ ทั้ง 5 ประเภท
ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ กำลังอัดเป็นเปอร์เซ็นเมื่อเทียบกับประเภท 1
..........................................................................................................................................
1 วัน 7 วัน 28 วัน 90 วัน
.........................................................................................................................................
ประเภท 1 100 100 100 100
.........................................................................................................................................
ประเภท 2 75 85 90 100
.........................................................................................................................................
ประเภท 3 190 120 110 100
.........................................................................................................................................
ประเภท 4 55 55 75 100
.........................................................................................................................................
ประเภท 5 65 75 85 100
.........................................................................................................................................
For more information
http://www.aboutcement.blogspot.com/
KTC Profile
Address : 37/8 M.3 Phahonyothin-Lamlukka Rd.
T.Lardsawai A.Lamlukka Pathum thani 12150
Tel. (662) 9945418 / 9986377 Fax. (662) 9986376
E-mail; ktctestingcenter@gmail.com
T.Lardsawai A.Lamlukka Pathum thani 12150
Tel. (662) 9945418 / 9986377 Fax. (662) 9986376
E-mail; ktctestingcenter@gmail.com
My memory
วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2554
วันจันทร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2554
สำนวนอังกฤษ-ไทย
สุภาษิตภาษาอังกฤษ-สุภาษิตภาษาไทย
รวมสุภาษิต คำคม สำนวนภาษาอังกฤษ
พร้อมความหมายภาษาไทย มากที่สุด
1. An accident is due to lack of proper care. =
อุบัติเหตุมักจะเกิดขึ้นจากการขาดความระมัดระวัง
2. Don’t charge your memory with too many facts =
อย่าใช้สมองจดจำเรื่องราวต่าง ๆ ให้มากจนเกินไป
3. A mad man is not responsible for his actions. =
คนบ้าไม่ต้องรับผิดชอบในการกระทำของเขา
4. It’s a sad house where the hen crows louder than the cock. =
สามีเป็นช้างเท้าหน้า ภรรยาเป็นช้างเท้าหลัง
5. Marriage is an expensive luxury. =
การแต่งงานเป็นของฟุ่มเฟือยที่แสนแพง
6. Fools build house; wise men buy them. =
คนโง่สร้างบ้านอยู่ คนฉลาดซื้อบ้านสร้างเสร็จอยู่
7. Keep something for a rainy day. = กินน้ำเผื่อแล้ว
8. There is no fool like an old fool. =ไม่มีใครโง่เกินคนแก่โง่
9. Kill not the goose that lays the golden eggs. = โลภมากลาภหาย.
10. Facts are stubborn things. = ความจริงล้างอย่างไรก็ไม่เลือนหาย
11. It is a foolish sheep that makes. The wolf his confessor. =
อย่าชี้โพรงให้กระรอก
12. Brave actiuons never want trumpet. =
การกระทำอันกล้าหาญ ไม่จำเป็นต้องป่าวประกาศให้ใครรู้
13. Good manners are part and parcel of a good education. =
กิริยามารยาทที่สุภาพเรียบร้อย เป็นส่วนสำคัญจากการได้รับการศึกษาดี
14. A bad workman always blames his tool. = รำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง
15. Habituate yourself to hard work. = จงฝึกฝนตัวเองให้เคยชินกับงานหนัก
16. Fine features make fine birds. = ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง
17. Man has gregarious habits. = มนุษย์ชอบอยู่รวมกันเป็นกลุ่มเป็นหมู่คณะ
18. Big fish eat little fish. = ปลาใหญ่กินปลาเล็ก
19. Guardianship has many responsibillitie. =
การเป็นผู้ปกครองนั้นต้องมีความรับผิดชอบมาก
20. A friend in need is a friend indeed = เพื่อนแท้คือเพื่อนในยามยาก
21. Birds of a feather flock together = คบคนพาล พาลพาไปหาผิด
22. Actions speak louder than words = ทำดีกว่าพูด
23. A bird in head is worth two in the bush = สิบเบี้ยใกล้มือ
24. A rolling stone gathers no moss = รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี
25. Absence makes the heart grow fonder = ตัวไกลใจอยู่ยิ่งไกลก็ยิ่งรักกัน
26. Make hay while the sun shines = น้ำขึ้นให้รีบตัก
27. He laughs best who laughs last = หัวเราะทีหลังดังกว่า
28. Listeners hear no good of themselves = นินทากาเลเหมือนเทน้ำ
29. It is never too late to mend = ไม่มีอะไรสายสำหรับการเริ่มต้น
30. Still water runs deep = น้ำนิ่งไหลลึก
31. Good cloths open all doors. = ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง
32. Overtly agree but coertly oppose =
ปากว่าตาขยิบ หรือพูดอีกอย่างแต่ทำอีกอย่าง
33. Cry for the Moon =
กระต่ายหมายจันทร์ หมายถึงหนุ่มหมายปองสาวที่มีฐานะดีกว่า
34. Apple of sodom =สวยแต่รูป จูบไม่หอม งามภายนอกแต่ใจแย่ไง
35. When misfortune reaches the limit, good fortune is at hand =
ต้นร้ายปลายดี เริ่มต้นไม่ดีแต่ไปดีเอาตอนหลัง
36. Between the devil and the deep blue sea = หนีเสือปะจรเข้
37. Be caught red-handed = จับได้คาหนังคาเขา
38. To take for a needle in a haystack = งมเข็มในมหาสมุทร
39. To eat one's cake and have it too = จับปลาสองมือ
40. To take something with a pinch of salt =
ฟังหูไว้หู ฟังแล้วคิดพิจารณาก่อนจะเชื่อ
41. As you sow, so you reap = ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
42. Cannot make head or tail of = จับต้นชนปลายไม่ถูก
43. You can not teach old dogs new tricks. =
เราไม่สามารถสอนกลเม็ดใหม่ๆ ให้สุนัขแก่ได้หรือไม้แก่ดัดยากนั่นเอง...
44. Where there is a will, there is a way =
ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น
45. Look before you leap =
จงดูให้ดีก่อนื้จะกระโดด หมายถึง คิดให้ดี รอบคอบก่อนที่จะทำอะไร
46. Prevention is better than cure = กันไว้ดีกว่าแก้
47. Do as Romans do when you are in Rome =
จงทำตัวให้เหมือนคนโรมันเมื่ออยู่ในกรุงโรมหรือ
เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม
48. Joy and sorrow are as near as today and tomorrow. =
ความสุขกับความทุกข์อยู่ใกล้กันเหมือนวันนี้กับวันพรุ่งนี้
49. He who has never tasted bitterness does not know what is sweet =
ผู้ที่ไม่เคยรับรู้รสของความขมขื่นจะไม่รู้ว่าความหวานชื่นคืออะไร
50. One who lives in a glasshouse should not throw stones. =
เมื่ออยู่ในเรือนกระจกไม่ควรขว้างก้อนหิน
หมายถึงเมื่ออยู่ในที่ๆ เสีบเปรียบก็อย่าหาเรื่องผู้อื่น
51."Time and tide wait for no man" = เวลาและกระแสน้ำไม่เคยคอยใคร
52. Everyone thinks his own burden the heaviest. =
ทุกคนมักคิดว่าภาระของตนหนักกว่าของผู้อื่นเสมอ
53. No one is too old to learn = ไม่มีใครแก่เกินเรียน
54. Reading makes a full man. = การอ่านหนังสือทำให้เป็นคนที่สมบูรณ์
55. All men naturally desire to know. = มนุษย์ทุกคนย่อมอยากรู้โดยธรรมชาติ
56. Be quick to hear and slow to speak.= ฟังให้เร็ว แต่พูดให้ช้า
57. Live to learn to live. = จงอยู่เพื่อเรียนรู้การดำรงชีวิต
58. Brave actions never want trumpet. =
การกระทำอันกล้าหาญ ไม่จำเป็นต้องป่าวประกาศ
59. Words once spoken cannot be altered. =
คำพูดที่กล่าวไปแล้ว ย่อมไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงได้
60. Though strength fails, boldness is praiseworthy. =
ถึงแม้ว่ากระทำสิ่งใดยังไม่เป็นผลสำเร็จ
แต่การที่ได้กล้าทำนั้นควรได้รับการยกย่อง
61. No one is harmed by thinking. =
การไตร่ตรองยั้งคิด ไม่เคยทำอันตรายใคร
62. Order will render the work facile. =
ความมีระเบียบวินัย เป็นสิ่งที่ทำให้การทำงานราบรื่นขึ้น
63. Every obstacle is surmountable. =
อุปสรรคทุกอย่าง ย่อมผ่านพ้นไปได้เสมอ
64. Health is wealth. = ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ
65.What can't be cured must be endured. =
เมื่อสิ่งใดหมดทางที่จะแก้ไขได้แล้ว ก็ต้องยอมรับและทนในสิ่งนั้น
66. Peace begins where ambition ends. =
ความสงบจะเริ่มขึ้น ณ ที่ซึ่งความเห่อเหิม ทะเยอทะยานได้สิ้นสุดลงแล้ว
67. Trial and error is the source of our knowledge. =
เมื่อได้ทดลองทำสิ่งใดๆ แล้วผิดพลาด
นั่นคือข้อมูลแห่งความรู้ของเราเอง
68. Happyness belong to the contented. =
บุคคลจะมีความสุขหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับความพอใจ
69.Don't shrink any task because of its arduousness. =
อย่าละทิ้งงานใดๆ เพียงเห็นว่างานนั้นยาก
70.The tongue is like a sharp knife; it kills without drawing blood.=
ลิ้นเหมือนมีดคม สามารถฆ่าได้โดยไม่มีเลือดตก
ข้อมูลเพิ่มเติม
http://www.thaigoodview.com/node/100297
รวมสุภาษิต คำคม สำนวนภาษาอังกฤษ
พร้อมความหมายภาษาไทย มากที่สุด
1. An accident is due to lack of proper care. =
อุบัติเหตุมักจะเกิดขึ้นจากการขาดความระมัดระวัง
2. Don’t charge your memory with too many facts =
อย่าใช้สมองจดจำเรื่องราวต่าง ๆ ให้มากจนเกินไป
3. A mad man is not responsible for his actions. =
คนบ้าไม่ต้องรับผิดชอบในการกระทำของเขา
4. It’s a sad house where the hen crows louder than the cock. =
สามีเป็นช้างเท้าหน้า ภรรยาเป็นช้างเท้าหลัง
5. Marriage is an expensive luxury. =
การแต่งงานเป็นของฟุ่มเฟือยที่แสนแพง
6. Fools build house; wise men buy them. =
คนโง่สร้างบ้านอยู่ คนฉลาดซื้อบ้านสร้างเสร็จอยู่
7. Keep something for a rainy day. = กินน้ำเผื่อแล้ว
8. There is no fool like an old fool. =ไม่มีใครโง่เกินคนแก่โง่
9. Kill not the goose that lays the golden eggs. = โลภมากลาภหาย.
10. Facts are stubborn things. = ความจริงล้างอย่างไรก็ไม่เลือนหาย
11. It is a foolish sheep that makes. The wolf his confessor. =
อย่าชี้โพรงให้กระรอก
12. Brave actiuons never want trumpet. =
การกระทำอันกล้าหาญ ไม่จำเป็นต้องป่าวประกาศให้ใครรู้
13. Good manners are part and parcel of a good education. =
กิริยามารยาทที่สุภาพเรียบร้อย เป็นส่วนสำคัญจากการได้รับการศึกษาดี
14. A bad workman always blames his tool. = รำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง
15. Habituate yourself to hard work. = จงฝึกฝนตัวเองให้เคยชินกับงานหนัก
16. Fine features make fine birds. = ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง
17. Man has gregarious habits. = มนุษย์ชอบอยู่รวมกันเป็นกลุ่มเป็นหมู่คณะ
18. Big fish eat little fish. = ปลาใหญ่กินปลาเล็ก
19. Guardianship has many responsibillitie. =
การเป็นผู้ปกครองนั้นต้องมีความรับผิดชอบมาก
20. A friend in need is a friend indeed = เพื่อนแท้คือเพื่อนในยามยาก
21. Birds of a feather flock together = คบคนพาล พาลพาไปหาผิด
22. Actions speak louder than words = ทำดีกว่าพูด
23. A bird in head is worth two in the bush = สิบเบี้ยใกล้มือ
24. A rolling stone gathers no moss = รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี
25. Absence makes the heart grow fonder = ตัวไกลใจอยู่ยิ่งไกลก็ยิ่งรักกัน
26. Make hay while the sun shines = น้ำขึ้นให้รีบตัก
27. He laughs best who laughs last = หัวเราะทีหลังดังกว่า
28. Listeners hear no good of themselves = นินทากาเลเหมือนเทน้ำ
29. It is never too late to mend = ไม่มีอะไรสายสำหรับการเริ่มต้น
30. Still water runs deep = น้ำนิ่งไหลลึก
31. Good cloths open all doors. = ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง
32. Overtly agree but coertly oppose =
ปากว่าตาขยิบ หรือพูดอีกอย่างแต่ทำอีกอย่าง
33. Cry for the Moon =
กระต่ายหมายจันทร์ หมายถึงหนุ่มหมายปองสาวที่มีฐานะดีกว่า
34. Apple of sodom =สวยแต่รูป จูบไม่หอม งามภายนอกแต่ใจแย่ไง
35. When misfortune reaches the limit, good fortune is at hand =
ต้นร้ายปลายดี เริ่มต้นไม่ดีแต่ไปดีเอาตอนหลัง
36. Between the devil and the deep blue sea = หนีเสือปะจรเข้
37. Be caught red-handed = จับได้คาหนังคาเขา
38. To take for a needle in a haystack = งมเข็มในมหาสมุทร
39. To eat one's cake and have it too = จับปลาสองมือ
40. To take something with a pinch of salt =
ฟังหูไว้หู ฟังแล้วคิดพิจารณาก่อนจะเชื่อ
41. As you sow, so you reap = ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
42. Cannot make head or tail of = จับต้นชนปลายไม่ถูก
43. You can not teach old dogs new tricks. =
เราไม่สามารถสอนกลเม็ดใหม่ๆ ให้สุนัขแก่ได้หรือไม้แก่ดัดยากนั่นเอง...
44. Where there is a will, there is a way =
ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น
45. Look before you leap =
จงดูให้ดีก่อนื้จะกระโดด หมายถึง คิดให้ดี รอบคอบก่อนที่จะทำอะไร
46. Prevention is better than cure = กันไว้ดีกว่าแก้
47. Do as Romans do when you are in Rome =
จงทำตัวให้เหมือนคนโรมันเมื่ออยู่ในกรุงโรมหรือ
เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม
48. Joy and sorrow are as near as today and tomorrow. =
ความสุขกับความทุกข์อยู่ใกล้กันเหมือนวันนี้กับวันพรุ่งนี้
49. He who has never tasted bitterness does not know what is sweet =
ผู้ที่ไม่เคยรับรู้รสของความขมขื่นจะไม่รู้ว่าความหวานชื่นคืออะไร
50. One who lives in a glasshouse should not throw stones. =
เมื่ออยู่ในเรือนกระจกไม่ควรขว้างก้อนหิน
หมายถึงเมื่ออยู่ในที่ๆ เสีบเปรียบก็อย่าหาเรื่องผู้อื่น
51."Time and tide wait for no man" = เวลาและกระแสน้ำไม่เคยคอยใคร
52. Everyone thinks his own burden the heaviest. =
ทุกคนมักคิดว่าภาระของตนหนักกว่าของผู้อื่นเสมอ
53. No one is too old to learn = ไม่มีใครแก่เกินเรียน
54. Reading makes a full man. = การอ่านหนังสือทำให้เป็นคนที่สมบูรณ์
55. All men naturally desire to know. = มนุษย์ทุกคนย่อมอยากรู้โดยธรรมชาติ
56. Be quick to hear and slow to speak.= ฟังให้เร็ว แต่พูดให้ช้า
57. Live to learn to live. = จงอยู่เพื่อเรียนรู้การดำรงชีวิต
58. Brave actions never want trumpet. =
การกระทำอันกล้าหาญ ไม่จำเป็นต้องป่าวประกาศ
59. Words once spoken cannot be altered. =
คำพูดที่กล่าวไปแล้ว ย่อมไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงได้
60. Though strength fails, boldness is praiseworthy. =
ถึงแม้ว่ากระทำสิ่งใดยังไม่เป็นผลสำเร็จ
แต่การที่ได้กล้าทำนั้นควรได้รับการยกย่อง
61. No one is harmed by thinking. =
การไตร่ตรองยั้งคิด ไม่เคยทำอันตรายใคร
62. Order will render the work facile. =
ความมีระเบียบวินัย เป็นสิ่งที่ทำให้การทำงานราบรื่นขึ้น
63. Every obstacle is surmountable. =
อุปสรรคทุกอย่าง ย่อมผ่านพ้นไปได้เสมอ
64. Health is wealth. = ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ
65.What can't be cured must be endured. =
เมื่อสิ่งใดหมดทางที่จะแก้ไขได้แล้ว ก็ต้องยอมรับและทนในสิ่งนั้น
66. Peace begins where ambition ends. =
ความสงบจะเริ่มขึ้น ณ ที่ซึ่งความเห่อเหิม ทะเยอทะยานได้สิ้นสุดลงแล้ว
67. Trial and error is the source of our knowledge. =
เมื่อได้ทดลองทำสิ่งใดๆ แล้วผิดพลาด
นั่นคือข้อมูลแห่งความรู้ของเราเอง
68. Happyness belong to the contented. =
บุคคลจะมีความสุขหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับความพอใจ
69.Don't shrink any task because of its arduousness. =
อย่าละทิ้งงานใดๆ เพียงเห็นว่างานนั้นยาก
70.The tongue is like a sharp knife; it kills without drawing blood.=
ลิ้นเหมือนมีดคม สามารถฆ่าได้โดยไม่มีเลือดตก
ข้อมูลเพิ่มเติม
http://www.thaigoodview.com/node/100297
ป้ายกำกับ:
สำนวนภาษา
การเข้าไม้แบบ
การเข้าไม้ สำหรับงานก่อสร้างนั้นได้แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ
1. สำหรับงานโครงสร้าง การเข้าไม้ที่ประกอบขึ้นเพื่อเป็นโครงรับน้ำหนัก
หรือการยึดเหนี่ยวของโครงสร้างนั้นๆ เช่น โครงบ้าน, โครงหลังคา เป็นต้น
ซึ่งโครงสร้างดังกล่าวจะต้องสามารถรับแรงแบกทานและแรงอย่างอื่นได้ดี
ชนิดของรอยต่อที่พบบ่อยๆสำหรับงานโครงสร้าง
เช่น การเข้าชน, การเข้าบาก, การเข้าเดือย และการเข้าฝัง
รูปที่ 1.1. แสดงการเข้าไม้แบบการเข้าชนฉาก
รูปที่ 1.2. แสดงการเข้าไม้แบบการเข้าชนเฉ ( 45 องศา ) หรือ การเข้าปากกบ
รูปที่ 1.3. แสดงการเข้าไม้แบบการเข้าบากตรง
รูปที่ 1.4. แสดงการเข้าไม้แบบการเข้าบากหางเหยี่ยว
รูปที่ 1.5. แสดงการเข้าไม้แบบการเข้าฝังเดือยเดี่ยว
2. สำหรับงานปราณีต ส่วนมากใช้สำหรับการยึดส่วนประกอบต่างๆ
เข้าด้วยกันให้เป็นรูปร่างขึ้น ฉะนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดของงานประเภทนี้คือ การเข้าปากไม้
รูปที่ 2.1. แสดงการเข้าไม้แบบการเข้าบ่า
รูปที่ 2.2. แสดงการเข้าไม้แบบการเข้าลิ้น
รูปที่ 2.3. แสดงการเข้าไม้แบบการเข้าชนเฉ ( 45 องศา ) หรือ การเข้าปากกบ
รูปที่ 2.4. แสดงการเข้าไม้แบบการเข้าบากหางเหยี่ยว
Creating by Katanyou Chanachai
For more information :
* www.oknation.net/blog/sakce/2011/08/17/entry-1
* http://ช่างไม้.net/
* http://www.kimseng99.com/
1. สำหรับงานโครงสร้าง การเข้าไม้ที่ประกอบขึ้นเพื่อเป็นโครงรับน้ำหนัก
หรือการยึดเหนี่ยวของโครงสร้างนั้นๆ เช่น โครงบ้าน, โครงหลังคา เป็นต้น
ซึ่งโครงสร้างดังกล่าวจะต้องสามารถรับแรงแบกทานและแรงอย่างอื่นได้ดี
ชนิดของรอยต่อที่พบบ่อยๆสำหรับงานโครงสร้าง
เช่น การเข้าชน, การเข้าบาก, การเข้าเดือย และการเข้าฝัง
รูปที่ 1.1. แสดงการเข้าไม้แบบการเข้าชนฉาก
รูปที่ 1.2. แสดงการเข้าไม้แบบการเข้าชนเฉ ( 45 องศา ) หรือ การเข้าปากกบ
รูปที่ 1.3. แสดงการเข้าไม้แบบการเข้าบากตรง
รูปที่ 1.4. แสดงการเข้าไม้แบบการเข้าบากหางเหยี่ยว
รูปที่ 1.5. แสดงการเข้าไม้แบบการเข้าฝังเดือยเดี่ยว
2. สำหรับงานปราณีต ส่วนมากใช้สำหรับการยึดส่วนประกอบต่างๆ
เข้าด้วยกันให้เป็นรูปร่างขึ้น ฉะนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดของงานประเภทนี้คือ การเข้าปากไม้
รูปที่ 2.1. แสดงการเข้าไม้แบบการเข้าบ่า
รูปที่ 2.2. แสดงการเข้าไม้แบบการเข้าลิ้น
รูปที่ 2.3. แสดงการเข้าไม้แบบการเข้าชนเฉ ( 45 องศา ) หรือ การเข้าปากกบ
รูปที่ 2.4. แสดงการเข้าไม้แบบการเข้าบากหางเหยี่ยว
Creating by Katanyou Chanachai
For more information :
* www.oknation.net/blog/sakce/2011/08/17/entry-1
* http://ช่างไม้.net/
* http://www.kimseng99.com/
ป้ายกำกับ:
ไม้แบบ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)